Google Analytics เครื่องมือช่วยธุรกิจที่ทุกเว็บไซต์ควรมี
ใครที่เข้าชมเว็บไซต์ของเรา
อะไรที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของเราสนใจ
ลูกค้าเข้าเว็บไซต์ของเราจากช่องทางไหน
เมื่อไหร่ที่ลูกค้ามองหาเราหรือมีปฏิสัมพันธ์กับเว็บไซต์ของเรา
และลูกค้าแต่ละกลุ่มสร้างรายได้มากน้อยต่างกันอย่างไร
ในยุคปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อมูลนั้นคือสิ่งที่ทรงพลังอย่างยิ่ง การตัดสินใจโดยไร้ข้อมูลก็เหมือนการขับรถไปโดยไร้แสงไฟ ซึ่งไม่อาจเห็นถนนหรือเส้นทางว่าจะเป็นอย่างไร การมีข้อมูลที่มากขึ้นย่อมทำให้มุมมองของคุณสว่างไสวและมองเห็นรอบด้านได้กว้างขึ้น
จะเป็นอย่างไรหากคุณสามารถทราบถึงรายละเอียดของคนที่เข้ามาในเว็บของคุณได้ละเอียดยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่จำนวนคนเข้าเว็บ แต่คุณสามารถทราบว่า ผู้ที่เข้าเว็บคุณเป็นใคร เป็นชายหรือหญิง มาจากช่องทางไหน เข้ามาแล้วนิยมเข้าไปที่หน้าเว็บไหน อยู่นานเท่าไหร่
ซึ่งคุณสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ต่อเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดของคุณ ให้คุณสามารถหาจุดโฟกัส พัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า และทราบถึงช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการได้มาซึ่งยอดขายสูงสุด
ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ คุณสามารถได้มาโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
Google Analytics คืออะไร ทำงานอย่างไร
Google Analytics คือเครื่องมือที่ช่วยเจ้าของเว็บไซต์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บ ทำให้คุณสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ต่อ เพื่อให้ทราบถึงปัญหาและโอกาส รวมถึงสามารถเก็บข้อมูลยอดขาย จำนวนคนที่สั่งซื้อ และสร้าง Goal ขึ้นมาเพื่อติดตามชุดการกระทำบางอย่างที่เราอยากรู้ได้ เช่น ตั้งค่าให้นับจำนวนคนที่อยู่ในหน้าเลือกชมสินค้ามากกว่า 5 นาที
นอกจากการสร้าง Goal เพื่อติดตามการกระทำที่เราสนใจอยากรู้ เรายังสามารถทราบได้ถึงเพศและอายุของผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ ทำให้ทราบว่ากลุ่มลูกค้าหลักของเราคือเพศใด ช่วงอายุเท่าไรที่สร้างยอดขายให้เราได้มากที่สุด สินค้าที่ขายดีและอัตราส่วนผู้ที่เข้ามาที่เว็บไซต์ต่ออัตราส่วนการซื้อสินค้า
ซึ่ง Google Analytics นั้นสามารถรายงานข้อมูลเหล่านี้ออกมาในรูปแบบของรายงานที่อ่านและทำความเข้าใจได้ง่าย
การใช้งาน Google Analytics นั้น เราจะดูรายงานข้อมูลหลักๆ 4 หัวข้อคือ Audience, Acquistition, Behaviour และ Conversion
Audience Report
จะเห็นได้ว่าเมื่อกดเข้ามาในเมนู Audience จะมีการลงรายละเอียดมากมายให้เราเห็น ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ วิธีการเข้าถึงเว็บไซต์ว่ามาจากไหน เช่น มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเลต เป็นผู้เข้าชมจากประเทศใด และอื่นๆ อีกมากมายที่เปิดโอกาสให้เจ้าของเว็บไซต์เข้ามาดูและวิเคราะห์หาโอกาสทางธุรกิจ
Acquisition Report
เมนูนี้จะระบุถึงช่องทางการเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา ว่ามาจากช่องทางใด เช่น จากช่องทาง Organic Search, Direct, Social(เช่น Facebook), Paid Search หรือ Display
ซึ่งเมนูนี้จะระบุถึงรายละเอียดของผู้ที่เข้ามาผ่านทาง Google Ads ด้วยว่ามาจากแคมเปญใดและสามารถเทียบได้ว่าคนที่มาจากแต่ละแคมเปญมีการตอบสนองและพฤติกรรมการใช้จ่ายบนเว็บไซต์ของเราแตกต่างกันอย่างไร
Behavior report
รายงานนี้จะแสดงให้เราทราบถึงพฤติกรรมเมื่อมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา โดยจะแบ่งคร่าวๆ ออกเป็น Starting page คือหน้าแรกที่คนเข้ามาเยี่ยมชม และจะมี%บอกว่าหน้าถัดไปที่ผู้เข้าชมเว็บของเรามักจะเยี่ยมชมต่อคืออะไรใน 1st Interaction, 2nd Interaction และ 3rd Interaction ตามลำดับ ซึ่งจุดนี้สำคัญมากในการที่เราสามารถเห็นได้ว่าคนที่เข้ามาเว็บเรามักจะสนใจหน้าใด เพื่อที่จะรู้จุดขายและความต้องการของกลุ่มลูกค้า และหน้าไหนที่เมื่อคนเข้าไปดูแล้วมักจะ Bounce ออกจากเว็บเราไปเลย เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรในหน้านั้นที่เป็นปัญหาหรือไม่ เช่นเป็นหน้าว่าง หรือมีปัญหาในการโหลดหน้าขึ้นมา ทำให้คนเข้าชมไม่อยากอยู่บนเว็บเราต่อหรือไม่
Conversion Report
รายงานที่จะบอกถึง Goal ที่สำเร็จ ซึ่ง Goal นี้จะขึ้นอยู่กับการที่เราตั้งค่าได้เอง ซึ่งแต่ละเว็บก็จะมีวัตถุประสงค์และการตั้ง Goal ที่ต่างกันไป เช่น การตั้งค่า Goal เป็น Order complete, Submit Enquiry หรือจะตั้งให้การที่คนอยู่ในหน้าที่ต้องการเป็นระยะเวลาหนึ่งเป็น Goal ก็ย่อมได้
ซึ่ง Report ทั้งหมดนี้สามารถเข้าถึงได้ฟรีๆ เพียงแค่ติดตั้ง Google Analytic ซึ่งการติดตั้งทั้ง Search Console และ Google Analytic เป็นการนำข้อดีของการตลาดออนไลน์ซึ่งคือการที่สามารถวัดผลในด้านต่างๆได้ มาใช้ให้ได้มากที่สุด ให้เราได้มาซึ่งข้อมูลที่รอบด้านและถูกต้องในการวางกลยุทธ์การตลาด เพื่อให้สถิติในอดีตของเราปูเส้นทางไปสู่อนาคตที่ชัดเจน มิใช่เพียงการคลำทางในความมืดโดยไร้การนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์